วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

WordPress คืออะไร


WordPress คืออะไร - 1

WordPress เป็น open source web software ที่เราสามารถติดตั้งบนเว็บ server ของเราเพื่อสร้างเว็บไซต์, blog หรือ community ตอนเริ่มแรก WordPress เป็นเครื่องมือไว้สำหรับสร้าง blog แต่ได้รับการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนสามารถสร้างเป็นเว็บไซต์ หรือ เว็บ community ได้แล้ว โดยมีระบบจัดการบทความ หรือ Content Management System (CMS) ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่ง WordPress สร้างขึ้นโดย Matt Mullenweg และ Mike Little ในปี 2003 นับว่ามีการพัฒนามาถึง 9 ปีแล้ว
และเมื่อเริ่ม search หาคำว่า WordPress ก็จะทำให้หลายคนที่เริ่มต้นงงต่ออีกว่า ทำไมมันมี WordPress.com กับ WordPress.org ละ สองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร

WordPress.com กับ WordPress.org

ลองดูความสามารถของแต่ละตัว แล้วเปรียบเทียบนะครับ ว่าตัวไหนเหมาะสมกับการใช้งานของเรามากกว่ากัน

WordPress.com

  • ติดตั้งง่าย ต้องบอกว่าแค่สมัครไม่ต้องติดตั้ง เพราะเมื่อสมัครแล้วทำตามกระบวนการเสร็จแล้ว เราก็จะได้เว็บตามที่เราต้องการ ภายใต้ url xxxxx.wordpress.com แล้ว
  • ไม่ต้องเสียค่า hosting เพราะข้อมูลต่าง ๆ จะอยู่บน server ของ wordpress.com
  • มีการอัพเดต wordpress ให้อยู่เสมอเมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมา
  • มี plugin ที่จำเป็นสำหรับเว็บทั่ว ๆ ไปติดตั้งไว้ให้แล้ว โดยเป็นทาง wordpress.com เลือกไว้ให้เราใช้งาน
  • แน่นอนว่า ฟรี จะเสียค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อเราต้องการอัพเกรดเพื่อให้เราฟังก์ชั่นที่มากขึ้นจากที่ทาง wordpress.com เตรียมไว้ให้

WordPress.org

  • อิสระในการใช้งาน เนื่องจากเราโหลดมาติดตั้งที่ server ของเราเอง ดังนั้นเราสามารถปรับแต่งได้ตามใจเรามากกว่าใช้งานบน wordpress.com
  • ปรับแต่ง theme ของเราได้ตามสะดวก และสามารถ download theme มาติดตั้งเองได้ โดยไม่ต้องเลือกเฉพาะที่ทาง wordpress.com จำกัดไว้ให้
  • ติดตั้ง plugin ได้ตามใจเรา อยากได้ตัวไหน download มาติดตั้งได้เลย
  • ปรับแต่ง code ได้ตามที่เราต้องการ และทาง wordpress.org เองก็มีคู่มือไว้รองรับอยู่แล้ว
  • เลือก hosting ที่เราต้องการ ในราคาที่เราต้องการได้ ไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงที่เดียว
หวังว่าทุกคนคงตัดสินใจได้นะครับ ว่าจะใช้ WordPress.com หรือ WordPress.org กันดี ^^

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ก่อนเริ่ม ..... ตั้งเป้าหมายให้กระจ่างชัด

ก่อนจะลงมือทำอะไรก็ตาม เราต้องตั้งเป้ากันก่อนครับ 

แต่ล่ะคน มาที่นี่ด้วยพื้นฐานที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นแต่ล่ะคน คงจะมีเป้ารายได้ ที่ไม่เท่ากันด้วย 

บางคนอาจจะเก่งหรือทำเว็บอยู่แล้ว ก็ตั้งเป้ามากหน่อย บางคนไม่ค่อยเป็นอะไรเลย ก็ตั้งเป้าน้อยหน่อย 

แต่ไม่อนุญาติ ให้ตั้งเป้าน้อยกว่า ห้าหมื่นบาทต่อเดือนน่ะครับ ...... อันนี้เป็นเป้าขั้นต่ำที่ผมกำหนดให้เพื่อนๆทุกคนทำ..... 

นอกจากเรื่องรายได้แล้ว เพื่อนๆควรกำหนดระยะเวลาด้วยครับว่า เพื่อนๆจะสามารถทำรายได้ ให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ภายในระยะเวลากี่เดือน ?? 

ผมกำหนดระยะเวลาอย่างมากที่สุด ในการทำห้าหมื่นบาทต่อเดือน ไว้ที่ 6 เดือนครับ 



Post ต่อลงมาข้างล่างเลยครับ เพื่อนๆต้องการทำรายได้จาก Adsense หรือ Affiliate เดือนล่ะเท่าไหร่ และจะใช้เวลากี่เดือน เพื่อทำให้ได้ ตามเป้าที่วางไว้ ..... 


Post เสร็จหากระดาษใบเล็กๆสักแผ่น เขียนเป้าอันนี้ ด้วยตัวบรรจง ติดที่หน้าคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆเลยครับ เอาไว้อ่านกระตุ้นทุกๆครั้งที่เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใช้ ........... 

ทำตามที่ผมบอกน่ะครับ อย่าปล่อยผ่านเลยไปโดยไม่สนใจทำเด็ดขาด ....... 

กระดาษแผ่นเล็กๆนี่แหล่ะ จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของเพื่อนๆ ....... เชื่อผม !! 


http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,6.0.html

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Link Wheel และแนวทางการทำ Link Wheel ที่ชัดเจนที่สุด


การทำ SEO ในยุคปัจจุบันนี้นอกจากจะแข่งขันกันในเรื่องเนื้อหาแล้วยังแข่งขันกันในเรื่องของการสร้าง Backlink ยิ่งถ้าเราได้ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน หรือจากเว็บไซต์ที่มีคะแนน Page Rank สูง ๆ คุณภาพบล็อกของเราก็จะเพิ่มขึ้น อันดับการค้นหาก็ดีขึ้นตามไปด้วย

การจะได้มาซึ่ง Backlink ที่ทำได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ก็คือการ Submit กับ Pligg ,Social Bookmark ,Directiry ,Comment ไซต์ หรือการ โพส/ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดหรือ Forum ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกของคุณ เป็นต้น แต่ทุกอย่างก็จะต้องใช้ความอดทน และใช้เวลากว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และบ่อยครั้งที่ผลลัพธ์ก็ไม่คุ้มกับแรงงานและเวลาที่เราใช้ไป

 

บทความนี้ผมจึงขอนำเสนอวิธีสร้าง Backlink ที่ทรงพลังที่คุณสามารถกำหนดเองได้ควบคุมได้ และให้ผลลัพธ์จากการทำที่ชัดเจนกว่าการสร้าง Backlink ตามปกติ Backlink ชนิดนี้เรียกว่า Link Wheel

ผมไม่ใช่คนแรกที่พูดถึง Link Wheel แต่ผมคิดว่าผมเป็นคนแรกที่นำเสนอการสร้าง Link Wheel ในภาคปฏิบัติ จากการทดลองทำ Link Wheel ด้วยตัวเองมาประมาณ 2 สัปดาห์ พบว่าบาง keyword ที่ผมเคยอยู่หน้า 2-3 ของ Google ก็ขึ้นมาอยู่หน้า 1 ในหลาย ๆ keyword ด้วยการทำ LinkWheel อย่าง่าย

การนำเสนอการสร้าง LinkWheel ของผมจะมุ่งเน้นไปที่การทำ LinkWheel สำหรับ Blogger สำหรับท่านที่ทำกับบล็อกชนิดอื่น ๆ หรือจะนำไปใช้กับเว็บไซต์ก็สามารถใช้แนวคิดที่นำเสนอในบทความนี้ได้เช่นกัน และวิธีการทำ LinkWheel กับบล็อกหรือเว็บไซต์อื่น ๆ ก็คล้ายคลึงกันกับที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้

LinkWheel ภาคทฤษฎี


รู้จัก Web 2.0 หรือยัง?
เอาแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ web 2.0 คือเว็บที่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้โดยไม่ต้องเข้าถึง server หรือมี Admin คอยควบคุม ตัวอย่างเช่น เว็บบล็อก ได้แก่ blogger, wordpress,Squidoo,Live.space,exteen blog,bloggang  ,บล็อกของผมนี่ก็ใช่, เว็บรับฝากรูป รับฝากไฟล์นี่ก็ใช่  ,เว็บ Pligg ,Soicial Bookmark , Soicial network จำพวก facebook ,Myspace เป็นต้น

รู้จัก Class C หรือยัง?
Class C ที่จะพูดถึงในที่นี้เป็น Class C ในเรื่อง SEO ซึ่งมีความหมายต่างจาก Class C ในเรื่อง IP Adress ซึ่งบังเอิญเขียนเหมือนกัน โดยความหมายของ Class C  ในที่นี้คือ Class C Blocks หรือ กลุ่ม IP ที่อยู่ใน Subnet 255.255.255.0 ( Subnet= Sub Network หรือเครือข่ายย่อย เป็นการจับกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน)  ซึ่งจะเข้าใจง่ายขึ้นถ้าดูจากชุดของ IP ต่อไปนี้

111.222.333.44
111.222.345.44
111.234.333.4
123.222.333.44
111.222.333.55

จากชุดตัวเลขข้างบน การดู Class C Blocks ให้ดูตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ซึ่งจะเห็นว่า IP ที่ 1 ถึง 4 ถือว่าเป็น Class C blocks  ที่ต่างกันเพราะตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ไม่ซ้ำกันเลย  แต่ จะเห็นอีกว่า IP ที่ 1 และ 5 มี Class C ที่เหมือนกัน

การทำ Link Wheel หรือแม้แต่กระทั่งการทำ Backlink ชนิดอื่นเราจะต้องการ Difference Class C blocks  นั่นคือไม่ควรสร้าง Backlink ที่มาจาก IP ของ Host ที่ตนเองได้มา  หรืออยู่ในกลุ่ม Class C block  เดียวกัน เพราะอาจจะทำให้ถูกเพ่งเลงจาก Serch Engine ว่าเป็นการสร้าง backlink ขึ้นมาเอง  และอาจจะถูก de-index ได้

ถ้าคุณอยากทราบว่าHost หรือ เว็บหรือบล็อกที่คุณจะใช้มี Class C ต่างกันหรือไม่ตรวจได้ที่

http://www.seochat.com/seo-tools/class-c-checker

Link Wheel คืออะไร?
Link wheel เป็น Backlink ชนิดหนึ่งที่สร้างโดยใช้การเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง web 2.0 ที่มีการเชื่อมโยงถึงกันลักษณะเป็น loop หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วง ลองดูรูปด้านล่างให้เข้าใจง่ายขึ้น

วิธีทำ blog วิธีสร้าง blog 

จากรูปจะเห็นได้ว่า เราทำให้การเชื่อมโยงของ Web 2.0 ลักษณะเป็นวง และทุกจุด (node) ในวงก็จะส่ง Backlink มายัง เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ตรงกลางของวงก็จะเป็นบล็อกทำเงิน หรือเป็นบล็อกที่เราต้องการให้ได้อันดับที่ดีในผลการค้นหา

หลักการของ Link Wheel เป็นอย่างไร?
ผมจะยกตัวอย่างเทียบเคียงให้ลองนึกภาพตามดู และดูภาพข้างบนประกอบไปด้วยจะได้เข้าใจง่าย ๆ 

สมมติว่า Bot ของ Google ไปเชียงใหม่ ถามคนเชียงใหม่ว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไหนอร่อย ถ้าคนเชียงใหม่ตอบว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อลองไปถามคนที่สงขลาดูก็ได้ จากนั้น Bot ของ Google ไปสงขลา  คนสงขลาก็ตอบเหมือนกันว่าก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามคนที่อุบลดูจากนั้น Bot ของ Google ก็ไปอุบล … ไป ชลบุรี …ไปขอนแก่น … และย้อนกลับมาถามคนเชียงใหม่ … ก็ยังพบคำตอบเดียวกันหมด คือ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา Bot ของ Google จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาอร่อย และทำการจัดอันดับความอร่อยขึ้นไปอยู่ในอันดับต้น ๆ

จากตัวอย่างนี้ก็สรุปได้ว่าหลักการของ Link Wheel   คือการทำให้แหล่งอ้างอิงของ backlink เราน่าเชื่อถือที่สุด ควบคุมจำนวน Bot ที่วิ่งเขามายังบล็อกของเราให้มากที่สุด และนานที่สุดด้วย โดยการสร้างสะพานเชื่อมโยงให้ Bot วิ่งเป็นวง (loop) ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ Bot วิ่งวนไปมาหลายรอบ และวิ่งเข้าหา เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการนานขึ้น และมาในปริมาณมากขึ้นด้วย  

นอกจากนี้การทำ Link Wheel เราจะต้องใช้การเชื่อมโยงระหว่าง Web 2.0 ที่มี Class C ต่างกัน เช่น เราจะไม่ใช้ Blogger 10 บล็อกมาสร้างวงเพียงอย่างเดียว เพราะ Blogger แต่ละบล็อกก็ถือว่าอยู่ใน Class C  เดียวกัน ควรจะเลือกบล็อกจากหลาย ๆ แหล่งบริการ เช่นใช้ Blogger ,Wordpress, Live.space ,คละ ๆ กันไป เป็นต้น 

LinkWheel ภาคปฏิบัติ

เราจะเริ่มลงมือทำ Link Wheel ให้บล็อกของเราจริงๆ กันในขั้นนี้ โดยตัวอย่างที่จะแนะนำในที่นี้คือ การทำ Link Wheel แบบง่าย ซึ่งจะให้ทำเป็นวงเล็ก ๆ

ขั้นที่ 1 สมัครบล็อกฟรีเพื่อนำมาสร้างเป็น Link Wheel
ให้คุณไปสมัครบล็อกฟรีจากรายการด้านล่างนี้ โดยเลือกที่มีขั้นตอนสมัครไม่ยุ่งยากนัก และเอาที่คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างไม่ยากลำบาก เพราะการทำ Link Wheel จะต้องออกแรงมากในตอนแรก แต่เมื่อเห็นผลแล้วก็นับว่าคุ้มค่ามาก

รายชื่อบล็อกฟรีที่มี Class C ต่างกัน
ภาษาไทย

http://wordpress.com
http://home.spaces.live.com
http://www.blogger.com
http://exteen.com
http://www.oknation.net
http://www.bloggang.com

รายการด้านล่างนี้สำหรับท่านที่ต้องการเขียนเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษได้

http://blog.com 
http://blogetery.com 
http://blogetery.com/wp-signup.php 
http://bloghost.name/wp-signup.php 
http://bloglines.co.za/wp-signup.php 
http://blogrox.com 
http://blogs.bankruptcyhelp.org.uk/wp-signup.php 
http://blogs.xanco.com 
http://blogster.com 
http://bloguni.com/wp-signup.php 
http://burfunkle.com/register/ 
http://clearblogs.com 
http://clickdeindia.com/wp-signup.php 
http://cognosnetwork.com/net/register 
http://dagdigdug.com/wp-signup.php 
http://diarybabe.com/register 
http://dukeblogmu.com/wp-signup.php 
http://eblog.lt/wp-signup.php 
http://edublogs.org 
http://envendee.com/register 
http://forargyll.org/wp-signup.php 
http://manyaklari.com/register 
http://maxblog.com/wp-signup.php 
http://microbloghost.com/register 
http://mublogs.org/wp-signup.php 
http://multiply.com 
http://noiblogger.com/wp-signup.php 
http://onblogme.com/register 
http://paidtoblog.com/wp-signup.php 
http://poetrysocial.com/register 
http://publice.net/wp-sign.php 
http://pulse.yahoo.com 
http://qinqiblog.com/wp-signup.php 
http://researchblog.org/wp-signup.php 
http://roadoflove.com/register 
http://squarespace.com 
http://ufem.com 
http://weebly.com 
http://wloger.com/wp-signup.php 
http://www.bigadda.com/signup 
http://www.blogabond.com 
http://www.blogcheese.com 
http://www.blogladder.com 
http://www.blogr.com 
http://www.blogsome.com 
http://www.blogspirit.com/en/index.php 
http://www.blogth.com/signup.php 
http://www.blogyx.com 
http://www.bloki.com 
http://www.bravenet.com/webtools/journal 
http://www.busythumbs.com 
http://www.etribes.com/index_etribes.php 
http://www.freevlog.org
http://www.flixya.com 
http://www.homeschoolblogger.com 
http://www.greatestjournal.com
http://quizilla.teennick.com 
http://www.insanejournal.com 
http://www.journalfen.net 
http://www.livejournal.com
http://www.myblogsite.com 
http://www.mytypes.com 
http://www.nodblog.com 
http://www.netcipia.com 
http://www.opendiary.com
http://www.rojo.com 
http://www.shoutpost.com 
http://www.soulcast.com 
http://www.squidoo.com 
http://www.sundaycook.com/wp-signup.php
http://www.theblogs.de 
http://www.thoughts.com 
http://www.terapad.com 
http://www.trippert.com 
http://www.tumblr.com 
http://www.vox.com 
http://www.wordcountjournal.com 
http://www.xanga.com 
http://www.yola.com 
http://www.zoomshare.com
http://weblogs.us 
http://yovia.com/blogs/wp-signup.php

บล็อกที่แนะนำให้สมัคร
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. blogger.com
4. www.livejournal.com 

บล็อกทั้ง 4 บริการที่แนะนำเพราะว่าสามารถใช้โปแกรม Window Live Writer ช่วยเขียนเนื้อหาได้ มันจะทำให้งานของเราง่ายขึ้นอีกมาก

และโดยส่วนตัวที่ผมคิดว่าสมัครง่ายและใช้งานง่ายได้แก่ (ใช้ Window Live Writer  ไม่ได้ ) 
1. Wordpress.com
2. blog.com (บอทแรงมาก) 
3. www.squidoo.com (บอทแรงมาก) 
4. blogetery.com
5. sumhua.com
7. oknation.net (บอทแรงมาก) 
8. quizilla.teennick.com 
9. exteen.com
10. bloggang.com (บอทแรงมาก) 

ถ้าคุณมีข้อมูลการทำบล็อกเพิ่มเติมจากนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน และถ้าผมพบว่าบล็อกจากบริการใดสามารถใช้ในการทำ LinkWheel ได้อีกก็จะนำมาเพิ่มเติมให้ที่บทความนี้ในภายหลัง

ขั้นที่ 2 วางแผนวาดวงล้อขึ้นมา
จากขั้นที่ 1 ผมคาดเดาว่าจากการสมัครคงพอทราบแล้วว่า บล็อกฟรีจากบริการใดใช้งานง่าย บล็อก ฟรีจากบริการใดใช้ยาก ดังนั้นในขั้นนี้ให้ตัดสินใจเลือกบล็อกที่จะนำมาทำเป็น Link Wheel และวาดรูปเอาไว้เพื่อดูขณะทำ  

ตัวอย่าง 
ในตัวอย่างนี้ผมเลือกบล็อกจากบริการต่าง ๆ 5 บล็อกดังนี้ (คุณอาจจะเลือกทำมากกว่านี้ เพราะยิ่งวงใหญ่ยิ่งดี)
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. www.livejournal.com
4. exteen.com
5. sumhua.com

เมื่อสมัครเสร็จแล้วก็นำบล็อกมาวางเรียงลำดับว่าจะให้บล็อกต่าง ๆ อยู่ลำดับใดในวงของ Link Wheel
    

แผนภาพ Link Wheel ที่สร้างจากการเลือกในตัวอย่างนี้

แต่ง blogspot โค้ดแต่งบล็อก 

ขั้นที่ 3 เขียนบทความ
หลังจากเขียนแผนภาพเพื่อวางแผนการทำ LinkWheel แล้ว ขั้นต่อมาให้ใช้โปรแกรม Window Live Writer ดึงบทความจาก Blogger ของเราลงมา rewrite ใหม่โดยใช้เทคนิคและลำดับขั้นตอนดังนี้ 

3.1 เขียนบทความใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบล็อกหลัก ถ้าสามารถทำได้ไม่ยากนัก (ต้องเหนื่อยเพิ่ม) หรือ 
3.2 ถ้า rewrite บทความจากบล็อกเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยใช้เทคนิคดังนี้
       3.2.1 ให้รวม 2 บทความเป็นบทความเดียว และปรับแต่งข้อความเล็กน้อย เช่นเปลี่ยนคำ สลับประโยค เปลี่ยนชื่อบทความ เป็นต้น
       3.2.2 ให้ตัดข้อความเดิมออกมาขยายความ และดัดแปลงการนำเสนอเล็กน้อย 
       3.2.3 แปลงบทความจากไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทยก็ได้
การทำตามข้อ 3.2 ก็เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน  ของเนื้อหา (duplicate content) ที่ Search Engine ได้เคยมาเก็บไปแล้ว เพราะถ้าซ้ำ จะทำให้บล็อกเราเสียคะแนน และอาจจถูกจับได้ว่าเราสร้าง backlink ขึ้นมาเอง

3.3 สำหรับ Blog ที่ใช้โปรแกรม Window Live Writer เขียนได้ คุณสามารถใช้โปรแกรมนี้บันทึกบทความไว้ในเครื่องจากนั้นก็ดัดแปลงใหม่แล้วประกาศไปยังบล็อกต่าง ๆ เช่นในที่นี้ผมเขียนบทความและประกาศไปที่ Wordpress.com แล้ว ผมก็บันทึกเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เปิดบล็อกของ spaces.live.com ขึ้นมาและเปิดบทความขึ้นมาดัดแปลงตามที่แนะนำไว้ในข้อ 3.2 จากนั้นก็ประกาสไปยัง spaces.live.com ก็จะได้บทความในทั้ง 2 บล็อกแบบไม่เหนื่อยมาก

3.4 เขียนแนะนำบล็อกเป้าหมายโดยตรง และสร้างลิงค์มาตรง ๆ พร้อมทั้งสร้างลิงค์เพื่อเป็นสะพานไปยังบล็อกอื่น

3.5 ถ้าคุณไปลอกบทความชาวบ้านเขามา ควรให้เขียนเครดิตแก่เขาไว้ในบทความ และโดยมารยาทก็ควรจะใส่ลิงค์กลับไปยังบทความเขาด้วย ผมเองก็เบื่อกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน (เรื่องลอก ๆ เนี่ย) 

3.6 ควรจะเขียนบทความลงในบลอกที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างน้อย 10 บทความ อย่างสม่ำเสมอ

ขั้นที่ 4 เชื่อมโยงระหว่าง node ต่าง ๆ ของ Link Wheel
ถึงขั้นนี้คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะเชื่อมโยงระหว่างบล็อกต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าให้ผมอธิบายง่าย ๆ คือให้คุณทำ link โดยใช้รูปแบบของภาษา HTML ตรงใหนก็ได้ในหน้านั้น ๆ bot จะสามารถใต่ตามลิงค์มาได้หมดครับ และ 4 วิธีนี้คือแนวทางที่แนะนำ

4.1 เชื่อมโยงโดยกล่าวถึงในบทความ เช่นเมื่อบทความไปกล่าวถึงเรื่องอะไรก็ตามที่มีในบล็อกเป้าหมายของเราก็ให้ทำ link ไปได้เลย แต่อย่าใส่เยอะมากในบทความเดียวกันเพราะอาจถูกมองว่าเราเป็น Spam  และการสร้าง Link ก็ควรจะใส่แบบanchor text ด้วย

และตอนท้ายของบทความให้อ้างเครดิตมายังบล็อกเป้าหมาย พร้อมทั้งอ้างว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราเขียนแล้วลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่วางแผนไว้ในแผนภาพ ดังนั้นผลลัพธ์ตอนท้ายบทความจะเป็นหน้าตาแบบนี้

เครดิตข้อมูล :  ทำลิงค์ไปบล็อกเป้าหมาย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ทำลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่เขียนเอาไว้ในแผนภาพ

การทำตามข้อ 4.1 เรียกว่าเป็นการสร้างสะพานให้ Bot วิ่งต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าวงไม่ขาดผลก็จะเป็นเหมือนรูปที่เราวาดเอาไว้

4.2 วิธีที่ 2 ใส่ลิงค์ไปบล็อกอื่น ๆ โดยการสร้างเมนูขึ้นมา

4.3 ใช้ฟังก์ชัน Blogroll (ถ้าบล็อกนั้น ๆ มี) แล้วใส่ลิงค์เข้าไป 2 ลิงค์ ซึ่งทำคล้ายกับข้อ 4.1 เพียงแต่ไม่ได้ใส่ในบทความเท่านั้น 

4.4 ใส่ footer ด้วย Link แบบ AnChor text 

ถ้าคุณสร้างลิงค์ตามที่แนะนำเอาไว้ก็จะเกิดสะพานให้ Bot วิ่งได้แล้ว และถ้า Bot วิ่งได้แล้วก็จะวิ่งวนไปๆมาๆหลายรอบ backlink ที่คุณได้จะเป็นแบบ Spinning backlink ซึ่งจะดันให้อันดับของคุณสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคง


ขั้นที่ 5 Submit บทความเพื่อเรียก Bot
บล็อกที่เราสร้างขึ้นมาใหม่นี้ไม่ต้องไปเสียเวลาทำ SEO ให้มันมาก เพราะคุณจะเหนื่อยเกินไป ให้ใช้วิธีนำบทความไปSubmit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark  เพื่อเรียก bot ซึ่งผลที่ได้แสดงดังรูป

สอนแต่งบล็อก สอนสร้างบล็อก 

รูปข้างบนแสดงการนำบทความในบล็อกที่สร้างใน sumhua.com ไป Submit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark ซึ่ง Bot ก็จะวิ่งมายังสะพานที่เราสร้างไว้และวิ่งวนอยู่หลาย ๆ รอบ

ในทำนองเดียวกัน บทความในบล็อกอื่น ๆ ที่เหลือก็ควรจะนำไป Submit เช่นเดียวกับที่แสดงให้ดูในตัวอย่าง 

ขั้นที่ 6 Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ 
ที่ทำให้ดูในตัวอย่างนี้เป็น Link Wheel แบบง่าย คุณสามารถดัดแปลงเป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น

6.1 ขยายวง

ทำบล็อก blogger 

การขยายวงของ Link Wheel  จะช่วยให้เพิ่มโอกาสให้ bot เข้ามามากขึ้น ใช้เวลาวิ่งนานขึ้น และ backlink นี้จะแข็งแกร่งขึ้น 


6.2 วงซ้อนวง

วิธีทำ SEO Link Wheel 


6.3 วงต่อวง

วิธีทำ blog แต่งบล็อก 


6.4 ใช้ทฤษฎีกราฟในคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยให้เป็น Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ

การใช้รูปแบบกราฟทางคณิตศาสตร์ควรเลือกกราฟแบบไม่มี loop ที่จุด node หรือเรียกว่า Simple Graph 

ตัวอย่างรูปแบบกราฟในทฤษฎีกราฟทางคณิตศาสตร์ รูปด้านล่างเรียกว่า Petersen Graph

ทำ blog SEO Link Wheel  


6.5 คิดรูปแบบ Link Wheel ของตัวเอง
เมื่อเข้าใจรูปแบบและวิธีการเบื้องต้นแล้ว การประยุกต์ใช้ต่อไปก็อยู่ที่การลองถูกลองผิดของแต่ละคน ที่สำคัญคือคุณจะต้องเฝ้าสังเกตดูความเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอจึงจะสรุปได้ว่า สิ่งที่ได้ทดลองไปนั้นได้ผลหรือไม่ ผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ปรับปรุงและทดลองซ้ำอีก 

หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ สวัสดีครับ

Update : ผมได้เขียนข้อแนะนำเพิ่มเติมในการทำ Linkwheel อีก 1 บทความ อ่านต่อที่  ข้อแนะนำการทำ Linkwheel

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ClickBank คืออะไร เราจะหาเงินกับมันได้อย่างไร ?



ก่อนอื่นนะครับผมขอแนะนำก่อนละกันว่า Clickbank คืออะไร หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินจิงๆแล้วมันก็คือ Affiliate เจ้านึงที่มีสินค้าพวก E-Book ,Digital Product และอื่นๆอีกเยอะแยะมากมายออกมาขายโดยที่มันจะจัดส่งสินค้าทั่วโลก ซึ่งมันก็จะจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับเราก็ต่อเมื่อเราเอาสินค้าจาก Clickbank ไปโปรโมทโดยมีลิ้งค์ Aff ของเราและมีคนซื้อสินค้าผ่านลิ้งค์ Aff ของเรา เราก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามเปอร์เซ็นที่เขาวางไว้ครับ เช่น คุณขายสินค้าได้ 1 ชิ้นคุณจะได้ค่าคอม 30$ ซึ่งถ้าขายได้หลายชิ้นก็จะได้รับมากขึ้นตามจำนวนที่ขายได้สำหรับ Clickbank ก็ถือว่าค่าคอมมิชชั่นที่จะได้นั่นค่อนข้างสูงเลยทีเดียวครับ สินค้าบางตัวแค่คุณขายได้ 1 ชิ้นก็ได้ถึง 50-70$ ก็มีครับอันนี้ก็เป็นการอธิบายถึง Clickbank นะครับว่ามันคืออะไรและสามารถหาเงินกับมันได้ยังไง หวังว่าหลายๆคนคงจะเข้าใจแล้วนะครับ สวัสดีครับ

เดี๋ยวต่อไปว่างๆจะมาสอนวิธีการสมัคร Clickbank หรือ รีวิวเกี่ยวกับ Clickbank นะครับผม


https://www.facebook.com/groups/clickbankseo/

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ขาย script ปั่น amazon


จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการหารายได้ผ่านอินเตอร์เน็ตมานาน และผ่านการใช้งานสคริปมามากมาย ซึ่งสคริปแต่ละตัว ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป.
เพื่อให้เป็นการตอบโจทย์ที่ตรงกับความต้องการของงานขายสินค้ากับอเมซอน จึงได้นำเอาข้อด้อยของสคริปหลายๆตัวมาออกแบบพัฒนาใหม่ จนกลายมาเป็นสคริปปั่นเว็บที่ชื่อว่า “Webkakalot”.
โดยยึดหลักการที่ต้องยืดหยุ่นง่ายต่อการดัดแปลงแก้ไข เพื่อนำไปใช้กับงานอื่นๆ ได้ ตัวสคริปเลือกใช้งานกับ SEO เป็นหลัก เพราะผลของด้าน SEO ที่ดี ทั้ง On page และ Off Page อีกทั้งได้ออกแบบให้ลดปัญหาในการติดตั้งตัวสคริป และ Host ที่ต้องติดตั้งสคริป ทำให้ผู้ใช้ประหยัดค่า Host ลงไปได้หลายพันบาท
โดยสคริป Webkakalotจะถูกติดตั้งไว้ที่เรียบร้อยที่ Host ของ Webkakalot เอง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งสคริปอีก เพียงแต่นำสคริปที่เขียนด้วย Imacros มาดึงข้อมูลเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และง่ายต่อการดัดแปลงการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นข้อดีข้อหนึ่งของ iMacros

ตัวอย่าง http://www.ehealthyfoodbrain.com/ 

**สำหรับ 1 domain เราขายที่ราคา 490 บาท (สามารถปั่นซับได้ไม่จำกัด)
**สำหรับ 5 domains เราขายที่ราคา 1990 บาท
**สำหรับ 10 domain เราขายที่ราคา 3490 บาท
**สำหรับตัว Unlimited เราขายที่ราคา 5000 บาท

วิธีชำระเงิน : (ชำระแล้วกรุณาแจ้งวันเวลาที่ชำระตาม email ด้วยครับ)
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี : นายปกาสิต มณีนาค
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอาคารลิเบอร์ตี้ สแควร์ (สีลม) เลขที่ 403-065243-1

- ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยอาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค เลขที่ 568-0-09146-1
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม ซอย 22 เลขที่ 602-2-01925-0
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาปากเกร็ด เลขที่ 930-0-033660

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดหรือขอ demo สำหรับทดลองใช้ ได้ที่ webkakalot@gmail.com
หรือทิ้ง e-mail ไว้และจะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เรามาสร้างเงินกันเดือนละ 15000 บาท กันดีกว่า สำหรับมือใหม่ นะครับ

ช่วงนี้มีคนใหม่ๆเข้ามาในบอร์ดเราทุกวัน ผมตั้งกระทู้นี้เพื่อให้เป็นกำลังใจสำหรับน้องๆนักศึกษา หรือผู้ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สำหรับการหาเงิน เป็นค่าขนม ค่าเทอม ค่าผ่อนมอไซต์ รถยนต์ก็ว่ากันไป ตั้งเป้าไว้ให้เดือนละ 15000 บาท ครับ หรือเดือนละ 450 เหรียญครับ ผมจะเล่าเรื่องเป็นซีรีย์นะครับ ไม่เอาเป็นหัวข้อ คิดอะไรได้จะเล่าลงไป อ่านไปเพลินๆครับ 

สิ่งที่เราต้องพิจารณาในการหาเงินทางเน็ตสิ่งแรกที่พิจารณาคือ เราจะทำอะไรกันดีให้ได้เงิน 450 เหรียญต่อเดือน จากอินเตอร์เน็ท คำตอบในบอร์ดนี้คือ ทำอเมซอนกับทำแอดเซนต์ครับ แต่ที่ผมจะแนะนำวันนี้คือ อเมซอนครับ ขั้นต่อมาในการพิจารณาคือ เรามีเวลาหนึ่งเดือนก็คือ 30 วัน กับการทำเงิน 450 เหรียญ ซึ่งตกวันละ 15 เหรียญครับ ถามว่าเงิน 15 เหรียญแยะไหมสำหรับฝรั่ง คำตอบคือ ไม่แยะเลยครับ อยากได้เงินเป็นดอลล่า ต้องคิดแบบคนใช้เงินดอลล่านะครับ คิดว่ามันไม่แยะแค่สิบห้าเหรียญ เหมือนกับเราคิดว่าเราใช้เงินแค่ 15 บาทของเรา นะครับ แล้วเราจะมีกำลังใจ เงิน 15 ดอลล่านี้ ยากไหม คำตอบคือไม่ยากครับ ต่อวันแค่นี้เอง เป็นผมบอกขายคอมได้วันละเครื่องก็พอแหละ ได้วันละยี่สิบห้าเหรียญแล้วเกินกำหนดอีก สิ่งที่เราก็ต้องให้Googleมันทำงานให้กับเรา ครับ ต่อมาเราต้องคำนึงถึงว่าเราขายของในเอมซอน จะขายอะไรดี สิ่งที่สำควรขาย คือ ของเล่น เสื้อผ้า หนังสือ และสินค้าตามฤดูการ ดูข่าว ดูเทรนสินค้าที่Google ดูอะไรหลายๆอย่างที่อเมริกาเขากำลังฮิท มีหลายคนกำลังคิด ผมจะรู้ได้ไงว่าอะไรขายดีไม่ดี คำตอบคือ ไม่รู้หรอก ต้องลงมือทำเองก่อนถึงจะรู้ครับ ถามใครเขาจะบอกคีย์ทำเงิน ไม่บอกหรอก ครับ  อ้าวมาเริ่มกันเลย ไปดูที่ เทรนของGoogleซิ มีอะไรน่าขายไหม ไปดูที่อีเบย์ซิอะไรกำลังฮิท สินค้าเบสเซลเลอร์ของอเมซอนดิ อะไรกำลังฮิท เข้าไปดูแต่ละหมวด ตอนนี้รัฐไหนฤดูหนาว ขายฮิทเตอร์ ที่โกยฮิมะ รถตัก รัฐไหนน้ำท่วม ขายอะไรเกี่ยวกับน้ำดีหว่า คิดเอาเด้อ บางรัฐร้อนตับแตก ขายเครื่องทำน้ำแข็ง เอ้า ดูรอบๆๆบ้านเราดิ มีอะไรที่เราอยากได้บ้างหว่า เสื้อก็อยากได้ กางเกงไนก็ยางตาย เสื้อในยางยืดแหละ กางเกงยีนชักสีซีด อยากได้ โน๊ตบุ๊กใหม่ อยากได้ ปากกาใหม่ รถก็เสีย เครื่องจ่ายน้ำมันรถเสีย เครื่องกรองน้ำที่บ้านเสีย อะไรอยากเปลียนใหม่หมด ที่สำคัญเมียก็อยากเปลี่ยนใหม่ ถ้าอเมซอนมีให้เปลียนเปลียนไปแหละ เราจะเห็นแหละว่าอะไรน่าขายได้ เรานึกถึงเราเป็นผู้ซื้อครับ ยุทธวิธีนี้ อยากได้อะไร จากนั้น สำคัญเลยแหละ ไปที่แอดเวริด หรือเครือ่งมือค้นหาคำสำหรับเวปไซต์ เอ้ ผมไม่มีทำไง ก็หาดิ ทำไงให้มันได้อะ ก็หาเอาแล้วกัน มีคนสอนเพียบ ดูๆมันเป็นไม่เป็น ไปดูกระทู้ผมสอนไว้ก็มีนะ ขั้นตอนหานิชคีย์เวริด อะ หาได้แล้วเอาซัก 30 คำนะ เก็บไว้เอาคำที่คนค้นหาแยะๆหน่อย คู่แข่งก็ปานกลางค่อนข้างน้อยครับ แต่จะให้ดีแข่งกับพวกที่แข็งๆไปเลยถ้าเก่ง seo เพราะพวกนี้ขายของได้แพงๆครับ  ขั้นต่อมา จดโดเมนครับ อยากทำเงินซักเดือนละหมื่นห้า จดโดเมนดีกว่า ดอดอะไรก็ได้ คอมดีสุด ถ้างบน้อยจดแค่ตัวเดียวพอ แต่งบแยะๆก็จดซักสิบถึงสิบห้าตัว คือทำซักสิบถึงสิบห้าเวปไซต์ ก็แค่ขายให้ได้วันละ เหรียญสองเหรียญต่อเวปก็พอแล้ว หรือตีเหมา เวปละสามสิบเหรียญต่อเดือน เอาแค่นั้นพอ (บางคนขายพวกหนักๆเช่น hdtv ได้ทีเดียว 30 เหรียญเลยก็พอแหละเดือนนี้ )ต่อมาโฮสที่ำทำครับ เช่า หรือไม่ก็ทำหน้าตาละห้อย ขอคนในนี้และรับรองมีคนให้ชัวร์ครับ เอาที่รองรับสคริปต์ได้แยะๆครับ ต่อมาจะทำเวปเอาอะไรดีหว่า ผมแนะนำ ออโต้อีสโตว์ นะครับ หรือไม่ก็น้อง ออม ครับ หรือ 155 อะไรนี้แหละ หาเอาในนี้แจกกันเพียบ จากนั้นจัดการลงให้เรียบร้อย แ้อนแอนแอ้น เวปไซต์เราเสร็จแหละ มาไวไปไวครับ ใครเก่งโมมันซะหน่อยดิ จะได้ออนเพจดี ทริกเล็กๆ ทำไงให้บอทมันวิ่งได้ิไกล วิ่งได้ลึก และวิ่งได้เร็วครับ มันอยู่ที่หัวเวปกับโครงสร้างเวปนั้นแหละ ไปศึกษาเอา ไม่อยากพูดมาก ทำทั้ง 15 เวปเราเลย จากนั้นเสร็จแล้ว นี้สำคัญนะครับ ขั้นตอนนี้ ต้องชิงความได้เปรียบเวลาทำอะไร เราจะทำยังไง ให้มันเก็บค่าตามที่เราต้องการเพื่ีอให้มันแสดงผลในผลการค้นหาตามที่เราอยากได้ นั้นคือ ในไทเทิ้ลที่แสดงต้องมีคำนั้นอยู่ ในคำอธิบายที่กุเกิ้ลนำมาแสดงต้องมีคำนั้นซักสองคำ และท้ายที่สุด url ต้องมีคำนั้นประกอบใน url ด้วย จะ่ช่วยให้เวปเราจัดอันดับดีครับ แต่ไม่สำคัญเท่า ซัพทีแรกครับ ซัพที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ที่นั้นก็คือ ที่โกแร้ง ครับ ทำลิงค์๋วีลให้มันซะ เดี๋ยวนี้เห็นเขาขายกันแล้ว ผมบอกตรงๆผมมีออโต้นะ แต่ไม่ให้หรอกเอาไว้ใช้คนเดียว โดยในหน้าโปรไฟล์ของผมในโกแรงทุกเวปผมทำลิงค์หากันทั้งหมดด้วยเพื่อเพิ่มความแรงให้กับเวปผมอะ รีบซัพทั้งสิบห้าเวปเลย ทำซักครึ่งวันเสร็จแหละ บทความก็หาเอาแถวๆนี้แหละ ไม่ต้องไปสนมันมากมาย แต่ถ้าไม่ซ้ำได้ก็ดีครับ ทำให้ดี ทำให้เร็ว แต่จะให้ดี นำลิงค์ของโกแร้ง และเวปเราไป ping ครับ ให้บอทมันวิ่ง  ต่อมา สำคัญอีกนั้นแหละ ทำลิงค์วีลที่โปรไฟล์ ครับ อันนี้สำคัญครับ หา pligg ซะสองสามร้อยเวป อันนี้มีคนแจก มีคนขาย และมีคนทำไว้แล้ว ที่แนะนำ ทำวงละห้าถึงสิบเวปพอ ถ้าขาดจะได้รู้ ทำซักวงละสิบกำลังสวย ทำซักสามสิบวง เอาเสร็จแล้วก็เอาลิงค์มันทั้งหมดไป ping จากนั้น หา web 2 หรือ wpmu มา ซัก ยี่สิบถึงร้อยเวป แต่ผมทำร้อยเวปนะ เอามาทำลิงค์พีรามิต หรือลิงค์วีลก็ได้แล้วแต่ถนัด หรือใช้บริการที่เขาขายในเวปนี้แหละ มีเพียบเลย แต่ที่แรงๆหน่อยก็ใช้ smf มีคนสอนเขียนไอมาโครไว้สมัคร ด้วย ผมก็เก็บไปได้ห้าร้อยกว่าเวปแหละ นี้สำคัญอีกนั้นและ ลิงค์ที่ web 2 wpmu และที่ smf นั้น ใช้คำที่ต้องการทำอันดับเป็นตัวลิงค์ สำคัญมากครับ ตัวนี้ จากนั้นก็หาลิงค์เข้าเวปอีกเรื่อยๆครับ หรือทำซ้ำใหม่เหมือนเดิมในการหาลิงค์ครับ ทำเรื่อยๆทำทุกวัน ว่างก็ทำ หลังจากที่ท่านทำแบบนี้แล้ว สองอาทิตย์จะเริ่มเห็นผล สองเดือนจะเริ่มได้เงินตามที่อยากได้ เดือนต่อไปชักโลภมาก จาก 450 เหรียญ ก็จะบอก เอ้ เอามันซัก 1000 เหรียญก็ไ้ด้ แล้วค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆครับ ทำตามที่บอกนี้แหละ ไม่ต้องไปทำอะไรหรอก พอซื้อรถมอไซต์ ผ่อนได้แล้ว ดีกว่าไปเล่นแคฟอก ไฮไฟว์ เฟ๊ชบุ๊ก อีก ขณะที่ผมพิมพ์ไปนี้กำลังซัพไดเร็กทรอรีสี่พันเวปอยู่นะนี้ รอเวลา ให้มันเสร็จอะ 

ทั้งหมดนี้ถ้าลงมือทำก็จะสำเร็จเองแหละ ไม่ลงมือแล้วจะสำเร็จได้ไง แต่ที่สำคัญคิดแบบฝรั่งคิดเรื่องเงินครับ เราจะเห็นว่าเงินแค่ 450 เหรียญคือเศษเงินเลยครับ แต่เป็นเงินเราคือ 15000 บาทเลยนะครับ รับราชการยังได้ไม่ถึงเลย จบใหม่ๆอะ นี้ทำอะไร อ่านที่ผมพิมพ์แล้วทำตาม ได้ขนาดนี้ ก็ดีกว่ารับราชการอีกนะนี้ งานอื่นมีก็ทำไป จะไปเรียน หรือว่าทำอะไรก็ทำไป มานั่งทำแบบนี้วันละซักสี่ห้าชั่วโมงต่อวัน  ก็จะได้เงินไปกินขนม แล้ว เอาไปซื้อเหล้าให้โคกินได้เลย ปีนี้โคกินเหล้า เลยต้องซื้อแบ็คเลเบิ้ล เลียงซะหน่อย 

พลามมาแยะ ไม่ได้แบ่งเป้นหัวข้อให้นะ นี้มาจากประสบการณ์การทำเลย นะครับ ไม่ได้เก่งขนาดเสกเงินได้เป้นล้านๆ แต่ก็ทำได้เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถทำได้ แต่ก็จะทำให้ดีเท่าคนอื่นๆที่ได้มากๆๆให้ได้ครับ 

ข้อความทั้งหมดนี้สงวนลิิขสิทธิ์ ใครจะเอาไปทำอะไร ก็เอาไปได้เลย หวงนะครับ (มันสงวนตรงไหน) ถ้าหวงคนไม่พิมพ์ให้เมื่อยหรอก 555555555555

ด้วยความนับถือ ผิดพลาดประการใด เทพอเมซอนท่านใดเห้นสมควรแ้ก้ก็บอกได้เลยนะครับ 

adsene5438

เพิ่มเติมนะครับ 

ลืมบอกไป จริงๆแล้วมีแนวทางใหม่ซึ่งก็ยืนพื้นมาจากแนวทางนี้นะครับ มีอยู่ 4 ขั้นตอน ด้วยกันคือ

1.วิจัยตลาด
2.วิจัย keyword
3.ทำเวปไซต์ให้สอดรับ seo
4.การทำ seo

ซึ่งก็ไม่หลุดจากคอนเซปเดิมนะครับ เหมือนกันแต่ต่างกันตรงรายละเอียดการทำนิดหน่อยครับ 

ปล.ไม่สอนนะครับ พึ่งสอนไปสิบกว่าคนอะ เขาโทรมาถามเลยบอกให้ ครับ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ไม่มีเวลาทำงานอิอิอิ


ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ จาก adsene5438 www.thaiseoboard.com

ขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าให้ Amazon


ขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าให้ Amazon
1. ให้ไปที่เว็บ https://affiliate-program.amazon.com จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Join now for FREE!
2. ระบบจะให้กรอกข้อมูลอีเมลล์ในการสมัคร เราก็กรอก gmail ตามที่เราได้สมัครไว้วิธีการในบทความก่อนหน้านี้ และกดปุ่ม Sign in using our secure server ดังรูป
3. กรอกรายละเอียดต่างๆ ตามที่ผมอธิบายไว้ในรูปแล้วนะครับ ทั้งหมดอย่าลืมว่ากรอกภาษาอังกฤษเด้อ
เมื่อกรอกรายละเอียดครบถ้วนแล้ว ให้กดปุ่ม Continue ครับ จะไปยังหน้าถัดไป
4. หน้านี้ก็กรอกรายละเอียดส่วนต้วของเรานะครับ ให้ครบถ้วน แล้วกดปุ่ม Next your website profile
5. หน้าต่อไปจากนี้จะให้ระบุ ข้อมูลเว็บไซต์ที่เราจะใช้ขายสินค้าให้ amazon เราก็เอา blogger ที่เราสร้างไว้แล้ว ตามที่สอนในบทความก่อน มากรอก ส่วนข้อมูลอื่นๆ ก็ตามที่ได้อธิบายไว้ในรูปแล้วนะครับ
ส่วนถัดมาก็เช่นกันครับ กรอกและเลือกรายละเอียดให้ครบถ้วน
เมื่อครบทุกอย่างให้กดปุ่ม Finish
6. จะมายังหน้าถัดไป ระบบจะให้เลือกว่า จะระบุวิธีรับเงินเลยหรือไม่ ถ้าเราเลือกหมายเลข 2 ก็จะจบขั้นตอนและเข้าไปหน้าจัดการ affiliate แต่ถ้าเราเลือกหมายเลข 1 ก็จะไปหน้าใส่รายละเอียดการรับเงิน
ในรูปที่ผมปิดไว้คือ tracking-id เริ่มต้นสำหรับที่เราจะนำไปใช้ในการขายสินค้าครับ
7. จากข้อก่อนหน้าเมื่อเลือกหมายเลข 1 ก็จะมาหน้านี้ เริ่มต้นผมแนะนำให้เลือกเป็นเช็คครับ และระบุยอดที่จะให้ตัดคือ 100$ แล้วเดี๋ยวเมื่อเราเริ่มมีรายได้มากขึ้นค่อยกลับมาเปลี่ยนเป็นรับเงินผ่านธนาคารกรุงเทพฯ
เมื่อกด continue ก็จะไปในหน้าจัดการของเราครับ ตามรูปด้านซ้ายมือที่ผมปิดด้วยแถบสี่เหลี่ยมไว้ เป็น tracking-id สำหรับที่เราจะนำไปใช้ขายของต่อไปครับ รูปแบบจะเป็น xxxxxx-20 สำหรับ 20 ด้านหลังนั้นเข้าใจว่าเป็นความหมายว่าเราทำ affiliate กับ amazon.com ครับ ส่วนด้านขวามือ ส่วนบนจะแสดงจำนวนสินค้าที่มีการส่งของไปแล้ว และแสดงค่า commission ของเรานั่นเอง ส่วนช่องด้านล่างหมายถึงจำนวนคลิก และ order ที่เราขายได้ครับ
9. หลังจากสมัครแล้ว เมื่อกลับไปเช็คในเมลล์ที่เราใช้สมัครก็จะมีจดหมายฉบับแรก แจ้งว่าได้รับข้อมูลในการสมัครแล้ว กำลังพิจารณาอนุมัติว่าจะให้เราทำ affiliate หรือไม่
ในเนื้อความของจดหมายก็คล้ายๆ ดังในรูปครับ
โดยหลังจากได้เมลล์ฉบับนี้ เราจะยังไม่ได้ค่า commission นะครับ เราต้องรอจดหมายอนุมัติ อีก 1 ฉบับดังในรูป ซึ่งอันนี้อาจจะใช้เวลาประมาณ 1 วันครับ ระหว่างนี้เราก็ไปจดโดเมนสำหรับทำร้านอื่นๆ เพิ่มก่อน หรือไปจัดหาสคริปต์สำหรับสร้างร้านมาเตรียมไว้ก็ได้ครับ
เมื่อมี email ตามรูปด้านบนมาแล้ว และในเนื้อหาของเมลล์ก็จะได้ประมาณนี้
Congratulations, your application to the Amazon.com Associates Program
has been approved.
For future reference, your unique Associates ID is xxxxxxx-20.
และก็มีลิงค์แนะนำวิธีใช้งานส่วนต่างๆ ของระบบจัดการ amazon affiliate ก็แสดงว่าเราได้รับอนุมัติให้ทำ affiliate กับ amazon ได้แล้ว
จากนั้นก็ลุยสร้างร้านต่อได้เลยครับ
เดี๋ยวบทความต่อไปจะแนะนำวิธีการสร้างลิงค์ขายของเพื่อให้ได้ค่า commission นะครับ

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

internet marketing (IM) คือ


internet-marketing
คงต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรามากจริงๆ บางคนก็อาจจะใช้เพื่อความบันเทิง บางคนใช้ในการเรียน บางคนก็ใช้ในการทำธุรกิจ และกิจกรรมบนอินเตอร์เน็ต ก็คือการเข้าร่วมกิจกรรม ตามเนื้อหาที่อยู่ในเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านบทความ หรือแม้แต่ซื้อของผ่านเว็บไซต์ แต่ไม่ว่าเราจะใช้อินเตอร์เน็ตในการทำสิ่งใดก็ตาม การที่จะทำให้ผู้คนเข้ามาร่วมกิจกรรมบนเว็บไซต์นั้น จำเป็นจะต้องใช้วิธีทางการตลาด อาจจะเรียกแตกต่างกันไปว่า Internet Marketing (การตลาดอินเตอร์เน็ต), i-MarketingWeb MarketingOnline Marketing (การตลาดออนไลน์), หรือe-Marketing (การตลาดอิเล็กทรอนิกส์) ก็ได้ ซึ่งเป็นการทำการตลาดให้กับสินค้าหรือบริการ ผ่านกระบวนการทางอินเตอร์เน็ตนั่นเอง สำหรับในบทความนี้ ผมขอเรียกว่า Internet Marketing ก็แล้วกันนะครับ
Internet Marketing คือการนำเอาความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคทางอินเตอร์เน็ตมาใช้ร่วมกัน ซึ่งได้แก่ การออกแบบ, การพัฒนา, การทำโฆษณา, และการขาย
Internet Marketing เป็นคำเรียกรวมการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งมีวิธีการอยู่มากมาย สามารถแบ่งได้เป็นหลากหลายประเภทเลยล่ะครับ แต่เท่าที่ผมตระเวนอ่านบทความตาม Blog ต่างๆ มาแต่ละที่ ก็จะแบ่งกลุ่มแบ่งประเภทไม่ค่อยจะเหมือนกันซักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าในบทความนี้ ก็จะเป็น การแบ่งประเภทการทำ Internet Marketing ตามแบบฉบับความเข้าใจของผมเองก็แล้วกันนะครับ ^^
  1. Social Media Marketing (SMM)
    1. Content Publishing เช่น Blogs, Articles, Audio, Video, Twitter
    2. Social Networking เช่น Facebook, MySpace, Ning
    3. Social Bookmarking เช่น Digg, Technorati, Delicious
      social-network
  2. Instant Messenger (IM) Marketing เช่น Skype, Yahoo Messenger, Windows Live Messenger (MSN)
  3. Search Engine Marketing (SEM)
    1. Search Engine Optimization (SEO)
    2. Pay Per Click (PPC) เช่น Google AdWords, Yahoo Search Marketing, Microsoft adCenter
  4. E-Mail Marketing - การใช้ e-mail ในการสร้างความสัมพันธ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แจ้งข่าวสาร แจ้งโปรโมชั่นต่างๆ กับลูกค้า หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งว่าการทำ Customer Relationship Management (CRM) ด้วยระบบ e-mail นั่นเอง
  5. Banner Ads Marketing - การติดแบนเนอร์โฆษณาในเว็บต่างๆ
  6. Viral Marketing หรือ การตลาดแบบไวรัส - เป็นการตลาดที่เลียนแบบการแพร่เชื้อของไวรัส
  7. Forum Marketing เช่น MLM.com, BetterNetworker.com
ในโลกนี้ยังมีวิธีการในการทำ Internet Marketing อีกมากมาย ที่ผมเองก็อาจจะยังไม่รู้ หรืออาจจะคิดไม่ถึงก็เป็นได้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักการตลาดทั้งหลายคือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทุกวันนี้ครับ